หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติการ ลาก ” วัตถุลอยน้ำ ” ขึ้นฝั่งภูเก็ต ชี้เป็นวัตถุพยานสำคัญ

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติการ ลาก ” วัตถุลอยน้ำ ” ขึ้นฝั่งภูเก็ต ชี้เป็นวัตถุพยานสำคัญ

วันนี้ (22 เมษายน 2562) เวลา 08:00 น.ที่ท่าเทียบเรือทัพเรือภาคที่ 3 พลเรือตรี วิธนรัชต์ คชเสนี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วย นายสุพจน์ รอดเรือง ณหนองคายและหน่วยงาน ศรชล.เขต 3 นำสื่อมวลชนและกำลังพลลงเรือหลวงศรีราชา เรือหลวงริ้นและเรือหลวงมันใน ออกเดินทางเพื่อไปปฏิบัติการเคลื่อนย้ายวัตถุลอยน้ำซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งเกาะภูเก็ตประมาณ 12-14 ไมล์ทะเล

พลเรือตรี วิธนรัชต์ คชเสนี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 

กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พลเรือโท สิทธิพร มาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะเป็น ผู้อำนวยการศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาคที่ 3 ให้ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการกองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 ควบคุมการปฏิบัติการเคลื่อนย้าย ” วัตถุลอยน้ำ” โดยจะใช้เรือในการเคลื่อนย้ายจำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือหลวงศรีราชา จะทำหน้าที่เป็นเรือบัญชาการควบคุมการปฏิบัติการเคลื่อนย้ายทั้งหมด และเรือลำที่ 2 คือ เรือหลวงริ้น จะทำหน้าที่ในการลากจูงส่วนที่เป็นเดือยตัวฐานที่ตั้งของวัตถุลอยน้ำ ส่วน เรือลำที่ 3 คือ เรือหลวงมันใน จะทำหน้าที่ในการบรรทุกวัตถุลอยน้ำที่เป็นตัวบ้าน คาดว่าการปฏิบัติการครั้งนี้จะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณครึ่งวัน โดยในการปฏิบัติการจะให้ความสำคัญและคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลอย่างสูงสุด

ทั้งนี้เมื่อทำการลากจูงและเคลื่อนย้ายวัตถุลอยน้ำ เข้าสู่ฝั่ง ได้ประสานงานกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต เบื้องต้นกำหนดเก็บรักษาวัตถุพยานไว้บริเวณท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต สำหรับปฏิบัติการเคลื่อนย้ายวัตถุลอยน้ำในครั้งนี้ใช้กำลังพลในการดำเนินการประมาณ 300 นาย

ด้านนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เมื่อวัตถุพยานอยู่ในความดูแลของสถานีตำรวจภูธรวิชิต พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวิชิต จะเร่งเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน เอกสารทั้งหมด คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์ จะสามารถส่ง เอกสารหลักฐาน ให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ต่อ

บุกยิงหัวแม่ลูกดับคาร้านนวด ลูกชาย 6 ขวบ ถูกลักหายไม่ทราบชะตากรรม ยิงดับคาร้านนวด ปราจีนบุรี – วันที่ 22 เม.ย. เวลา 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กบินทร์รับแจ้ง เกิดเหตุยิงกันตายภายในร้านนวดแผนไทยแห่งหนึ่งใน ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ในร้านพบหญิงสาว 2 แม่ลูกนอนตายจมกองเลือดที่พื้น คือ น.ส.ปิยะนันท์ อายุ 43 ปี ที่ริมฝีปากด้านขาวถูกยิงด้วยกระสุนขนาด 38 ม.ม.  1 นัด และที่ศรีษะด้านขวา 1 นัด ใกล้กันพบศพ นางวรีรัตน์ อายุ 61 ปี ถูกยิงเข้าหน้าผาก 1 นัด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชม.

เบื้องต้นทราบว่า นางวรีรัตน์เปิดร้านนวดแผนไทย มีบุตรสาว น.ส.ปิยะนันท์ ช่วยทำงานที่ร้าน น.ส.ปิยะนันท์ ถูกนายทอง อดีตสามีที่เลิกกันไปแล้วประมาณ 2 ปี คอยตามตื้อขอคืนดี แต่ น.ส.ปิยะนันท์ ไม่คืนดี นายทองจึงขู่ฆ่ายกครัว น.ส.ปิยะนันท์ ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.กบินทร์บุรี  แต่กลับมาเกิดเหตุร้ายขึ้น

นายพงษ์ยศ อายุ 49 ปี อดีตสามีนางวรีรัตน์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายตนได้โทรมาบอกว่าน.ส.ปิยะนันท์ ทะเลาะกับแฟนแล้วตอนนี้ติดต่อไม่ได้ ขอให้ป๊าไปดูที่ร้านนวด จนได้เดินทางมาดู ก็พบนางวรีรัตน์และนางสาวปิยะนันท์ นอนเสียชีวิตอยู่ และลูกชายของ น.ส.ปิยะนันท์ อายุ 6 ขวบ ได้หายจากร้านยังไม่ทราบชะตากรรม

ทัพเรือเข้ารื้อถอนบ้านลอยน้ำเข้าฝั่งภูเก็ต หลังสำรวจล่าสุดพบไม่แข็งแรงและกีดขวางทางเดินเรือ

ทัพเรือภาคที่ 3 และ ศรชล เขต 3 เข้ารื้อถอนและลากบ้านลอยน้ำเข้าฝั่งภูเก็ต หลังสำรวจล่าสุดพบไม่แข็งแรง กีดขวางทางเดินเรือ นำมาเป็นวัตถุพยานเอาผิดชาวต่างชาติลุกล้ำอธิปไตยของไทย

ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับชาวต่างชาติและภรรยาคนไทย กรณีที่ก่อสร้างและลากบ้านลอยน้ำไปติดตั้งในทะเล บริเวณพิกัดละติจูด 7 องศา 29.37 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 98 องศา 34.81 ลิปดาตะวันออก หรือ บริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะราชาใหญ่ ระยะห่างประมาณ 14 ไมล์ทะเล ซึ่งพิกัดดังกล่าว อยู่ในเขตต่อเนื่องของประเทศไทย และมีการโฆษณาชักชวนให้ผู้ที่มีแนวคิด Seasteading มาซื้อบ้านดังกล่าวอยู่เป็นชุมชนเพื่อสถาปนาเป็นรัฐอิสระ ปกครองตนเองนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ทัพเรือภาคที่ 3 และ หน่วยงานในศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต3 (ศรชล เขต 3 ) จะเข้าดำเนินการรื้อถอนและเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำเข้าฝั่ง เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อเส้นทางเดินเรือ และนำมารอในระหว่างการดำเนินคดี เนื่องจากบ้านลอยน้ำเป็นวัตถุพยานสำคัญในการดำเนินคดีกับชาวต่างชาติและภรรยาคนไทย ตามที่ทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้แจ้งความดำเนินคดีเอาผิด 119 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 ไปแล้วนั้น

รายงานข่าวระบุอีกว่า การรื้อถอนและเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำเข้าฝั่งในวันนี้นั้น เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ทางทัพเรือภาคที่ 3 และ ศรชล เขต 3 ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจบ้านลอยน้ำอีกครั้ง จากที่ได้เข้าตรวจสอบครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งการเข้าตรวจสอบครั้งล่าสุดนี้ ในเบื้องต้นพบว่าไม่มีความแข็งแรง หากปล่อยไว้อาจจะมีปัญหาตามมา จึงได้ใช้อำนาจของกฎหมายศรชล เข้ารื้อถอน

credit : fadsdelaware.com mantasdemudanzas.com lectoradosdegalego.com cobayesdeloasis.com