คดีแพรวา 9 ศพ 2562 -จากกรณีประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เกี่ยวกับการครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์รถเก๋งชนรถตู้สายอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิตบนทางด่วนเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ปี 2553 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ จน#แพรวา9ศพ ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์
ผ่านมาจนวันนี้ หนึ่งในเหยื่อผู้รอดชีวิต และแม่ของผู้เสียชีวิตเผยว่ายังไม่เคยได้รับการเยียวยาเลย
นั่นทำให้ชื่อของแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอีกครั้ง รวมถึงทวงหาความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สื่อหลายสำนักรายงานว่า แพรวา ได้เปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายครั้งหลังจากเกิดเรื่อง ทั้ง อรชร บัวบูชา และล่าสุด คือ รวินภิรมย์ และได้เปลี่ยนนามสกุลอีกด้วย
ล่าสุด นางลัดดาวัลย์ แม่ของแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ผ่านรายการโหนกระแส ซึ่งหนุ่ม กรรชัยเป็นพิธีกร ยืนยันด้วยโฉนดที่ดิน 21 ไร่ มูลค่า 50 ล้านบาท พร้อมบอกว่าสามารถขายมาชดใช้ได้เลย แต่ที่ผ่านมายังขายไม่ได้ เนื่องจากผู้ซื้อกังวลเรื่องข้อกฎหมายทางคดีความ เกรงว่าจะเป็นการยักยอกถ่ายเททรัพย์ อีกทั้งฝั่งตนก็ไม่มี “เงินสด” ในตัวจำนวนสูงขนาดนั้น จึงไม่ใช่เป็นการประวิงเวลา
นางลัดดาวัลย์ระบุว่า อยากบอกครอบครัวผู้สูญเสียทุกคนว่าเรามีทรัพย์สินอยู่ พร้อมที่จะขายให้กับทุกคน แต่เรามีตัวเงินไม่พอ และไม่เคยคิดย้ายทรัพย์หนี (นั่นอาจพอเป็นคำตอบได้ว่าทำไมเรื่องถึงยืดเยื้อมากว่า 9 ปี นอกจากนี้ อยากขอฝากเรียนไปถึงรัฐมนตรียุติธรรม ให้ช่วยอนุมัติเงินกองทุนยุติธรรมออกแทนไปก่อน แล้วให้ตนไปเป็นลูกหนี้หลวงแทน จะได้ไม่ช้า ตนมีที่ดินที่เตรียมไว้ปราณบุรีจำนวน 50 ล้าน ถ้าไม่พอมีอีกแปลง บ้านที่เมืองทอง จำนวน 55 ล้านบาท
ส่วนว่าทำไมแพรวาไม่ไปขึ้นศาล ตอนนั้นแพรวาป่วย เรากำชับให้ทนายไปแทน แต่เพิ่งมารู้ทีหลังว่าวันนั้นทนายไม่ได้ไป ก็รู้สึกโกรธและเสียใจ อยากขอโทษญาติทุกคน รวมถึงกรณีที่ทนายพูดจาไม่ดีใส่
ประเด็นเรื่องการเปลี่ยนชื่อ ยอมรับว่าเปลี่ยนจริง แต่ “แพรวา” เป็นชื่อเล่น น้องก็เปลี่ยนมาใช้นามสกุลของแม่ (อรุณวงศ์) เพื่อให้ใช้ชีวิตในสังคมได้ และการแต่งงานก็แต่งงานจริง แต่เลิกกันไปแล้ว ไม่อยากให้พาดพิงถึงเขาอีก นางลัดดาวัลย์กล่าวทิ้งท้ายว่าเรื่องนี้เป็นความผิดส่วนตัว ราชสกุลคนอื่น ๆ ไม่เกี่ยวข้อง และขอประทานอภัยที่ทำให้ต้องมัวหมองแก่คนอื่นที่ไม่ได้ทำผิดใดๆ ด้วย
ชายวัย 64 บุกร้องผบ.ตร. อ้างถูกตำรวจยัดยาบ้า ติดคุกฟรี 9 ปี
นายเรืองชัย โพธิ์ศรี อายุ 64 ปี หัวหน้ารักษาความปลอดภัยตลาดคลองเตย ได้บุกนำเอกสารและกระดาษเขียนข้อความเพื่อเข้าร้องเรียนต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีที่ตนถูกตัดสินคำคุกคดีค้ายาบ้ากว่า 15 ปี โดยนายเรืองชัยอ้างว่าเป็นการยัดยา และถูกบังคับให้สารภาพเพื่อแลกปล่อยตัวครอบครัว
เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2539 ได้มีตำรวจนอกเครื่องแบบสน.ท่าเรือ 4 นาย มาตรวจค้นบ้านของตน แต่ไม่มีสิ่งของผิดกฎหมายใด ๆ แต่จู่ ๆ หลังจากตรวจค้นรอบที่ 3 ปรากฏยาบ้า 800 เม็ดจากไหนไม่รู้และสมอ้างว่าเป็นของกลางที่ตรวจค้นเจอในบ้าน
นายเรืองชัยพร้อมครอบครัว ทั้งหมด 8 คน ถูกนำตัวไปสน.ท่าเรือ และมีการเรียกเงิน 9 แสนบาทโดยไม่มีการสอบปากคำ แลกกับการปล่อยตัว ตนต่อรองจนเหลือ 3 แสนบาท แต่ตำรวจบอกว่าต้องมีคนติดคุก 1 คน แลกกับการปล่อยตัวครอบครัวที่เหลือ ตนจึงต้องจำยอมติดคุกในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด ศาลตัดสินจำคุก 15 ปี ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2539 และได้รับพระราชทานอภัยโทษพ้นคุกออกมา เมื่อปี 2548 รวมติดคุก 9 ปี
นายเรืองชัยอ้างว่ามีตำรวจทำขบวนการทั้งหมด 9 นาย โดยตำรวจเบิกความเท็จไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และบางนายไม่ไปให้การในชั้นศาล ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 48 หลังพ้นโทษนายเรืองชัยก็ได้เดินทางไปร้องเรียนยังที่ต่าง ๆ มาโดยตลอด รวมถึงสำนักนายกรัฐมนตรีแต่เรื่องก็ไม่คืบ
เช้าวันนี้ (18 ) มีรายงานเข้าไปที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ว่ามีนักท่องเที่ยว 2 รายถูกคลื่นจมหายไปในทะเลที่หาดฟรีดอม ซึ่งอยู่ระหว่างหาดป่าตองและหาดกะรน ทางทีมจึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดดำน้ำเข้าเข้าร่วมการค้นหา
โดยในที่เกิดเหตุ กลุ่มเพื่อนของผู้สูญหายกำลังให้การกับตำรวจ และเมื่อทางกลุ่มกู้ภัยทราบข้อมูลก็ได้แบ่งกำลังออกเดินเท้าเพื่อตามหาในรอบชายหาด อย่างไรก็ตาม ทีมประดาน้ำไม่สามรถลงค้นหาในทะเลได้ เนื่องจากมีคลื่นสูง 1-2 เมตร พร้อมทั้งมีฝนตกหนัก บวกกับทางทีมเดินเท้าไม่พบตัวผู้สูญหาย เจ้าหน้าที่จึงต้องหยุดการค้นหาชั่วคราว
ทางกลุ่มเพื่อนเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางมาเที่ยวที่หาดฟรีดอมกันทั้งหมด 12 คน และลงเล่นน้ำโดยไม่ได้สนใจว่ามีฝนตก คลื่นลมแรง และระหว่างที่กำลังเล่นน้ำกันอยู่นั้น เพื่อน 2 คนก็ถูกคลื่นซัดหายไปในทะล ขณะที่เพื่อนๆ ที่เห็นเหตุการณ์ก็พยายามเข้าไปช่วย แต่ไม่สามารถช่วยได้ จึงได้มาแจ้งคนขับรถตู้ซึ่งได้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ